ลดปัญหาลมในกระเพาะอาหาร

แต่ไม่ต้องกังวล เพราะโชคดีที่ร่างกายของเราค่อยๆ ปรับตัวได้หากไม่เคยมีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารมาก่อน และถึงแม้ว่าคุณมีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารอยู่ก่อนแล้วก็มีอีกหลายวิธีที่ช่วยลดและแก้ไขเรื่องนี้ได้

ถ้าคุณมีอาการใดๆ ดังกล่าวข้างต้นหรือรู้ว่าระบบย่อยอาหารค่อนข้างมีปัญหา ให้ลองปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้

เปลี่ยนวิธีกินถั่ว: ถั่วเมล็ดแห้งทั้งหลายเป็นต้นเหตุของลมในกระเพาะอาหาร ลองแช่ถั่วในน้ำให้นิ่มหรือเพาะถั่วให้งอกก่อนกินหรือก่อนนำไปปรุงอาหาร และลองกินถั่วจำพวกที่ย่อยง่าย เช่น ถั่วเลนทิล ถั่วเขียว และเต้าหู้ เป็นต้น

กินปริมาณต่อมื้อให้น้อยลง (เพิ่มจำนวนมื้อแทน) : เปลี่ยนจากกินมื้อใหญ่ 2-3 ครั้งมาเป็นกินมื้อเล็ก (แต่หลายๆ มื้อ)

ตลอดวันแทน กินให้ช้าลง และเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน

กินธัญพืชไม่ขัดสีให้น้อยลง เป็นธัญพืชที่ผ่านกระบวนการขัดสีน้อยมากหรือไม่ผ่านเลย เช่น ข้าวกล้อง ถั่วเมล็ดแห้ง งา ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาเล่ย์ ข้าวโพด ลูกเดือย ข้าวไรย์ ข้าวฟ่าง ข้าวกล้องงอก ข้าวบัควีท (Buck Wheat) ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ลูกเดือย ถั่วดำ ข้าวกล้องหอมนิล และข้าวกล้องแดง : เริ่มจากกินธัญพืชขัดขาวก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มธัญพืชไม่ขัดสีเข้าไปในแต่ละมื้อ

ในระหว่างที่ร่างกายกำลังปรับตัว โดยที่ธัญพืชไม่ขัดสี (Whole grain) ควรมีfiber 10% ของคาร์โบไฮเดรตทั้งหมด

ลดการบริโภคอาหารบางอย่างที่เป็นสาเหตุของลมในกระเพาะอาหาร: ผักในตระกูลกะหล่ำ อาร์ติโชค และอาหารพลังงานต่ำ

ที่ประกอบด้วยโพลีออล เช่น ซอร์บิทอล และ แมนนิทอล อาจทำให้เกิดลมในกระเพาะอาหาร มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ หลังจากลด (หรืองด) อาหารเหล่านี้แล้ว คุณสามารถค่อยๆ เพิ่มกลับเข้าไปในแต่ละมื้อในระหว่างที่ร่างกายกำลังปรับตัวได้

เขียนบันทึก: การเขียนบันทึกประจำวันเรื่องอาหารและอาการต่างๆ สามารถช่วยให้บอกได้ว่าอาหารชนิดไหนที่ค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับคุณ

เพิ่มความกระฉับกระเฉง: การขยับร่างกายอยู่เรื่อยๆ (ไม่อยู่นิ่งๆทั้งวัน) ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น